บริการทำห้องเย็น
ผนังกันความร้อนภายใน

รับติดตั้งผนังกันความร้อนภายใน ทำห้องเย็นราคามิตรภาพ

ห้องเย็นคืออะไร?

ห้องเย็น (Cold Room หรือ Cold Storage) เป็นพื้นที่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่าค่าอุณหภูมิห้องปกติ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเก็บรักษาสินค้าและวัตถุดิบที่อาจเสื่อมสภาพได้ง่ายในอุณหภูมิที่สูงกว่า ห้องเย็นมีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเข้มงวดเพื่อให้สินค้าหรือวัตถุดิบคงความสดใหม่และคุณภาพอยู่เสมอ

ความสำคัญของห้องเย็น

  1. การยืดอายุการเก็บรักษา: การเก็บรักษาสินค้าในห้องเย็นช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของอาหารและวัตถุดิบอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการลดอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่ช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย, การเกิดเชื้อรา, และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่อาจทำให้สินค้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น การเก็บเนื้อสัตว์ในห้องเย็นสามารถช่วยยืดอายุการเก็บรักษาออกไปได้หลายสัปดาห์หรือแม้กระทั่งหลายเดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อและอุณหภูมิที่ใช้
  2. การรักษาคุณภาพและความสดใหม่: ห้องเย็นช่วยรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของอาหาร เช่น ผักและผลไม้ที่อาจสูญเสียความกรอบและรสชาติหากไม่ได้รับการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม นอกจากนี้ ห้องเย็นยังช่วยรักษาความสดของอาหารทะเล เช่น ปลาที่ยังคงมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดี
  3. การป้องกันการสูญเสีย: การใช้ห้องเย็นลดการสูญเสียของสินค้าหรือวัตถุดิบที่อาจเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพหรือการเน่าเสีย ทำให้สามารถจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการจัดการกับสินค้าที่เสื่อมสภาพ
  4. การจัดการคลังสินค้าและโลจิสติกส์: การใช้ห้องเย็นช่วยให้สามารถจัดการสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น โดยการเก็บรักษาสินค้าในพื้นที่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิทำให้สามารถจัดเก็บสินค้าในปริมาณมากและรักษาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการควบคุมคุณภาพของสินค้าให้ตรงตามมาตรฐาน

ประเภทของห้องเย็น

ห้องเย็นมีหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมและประเภทของสินค้า ดังนี้:

  1. ห้องแช่เย็นเฉียบพลัน (Air Blast Chill Room):
    • การใช้งาน: ใช้สำหรับการแช่แข็งสินค้าอย่างรวดเร็ว เช่น การควบคุมเชื้อแบคทีเรียในการผลิตเนื้อสัตว์ หรือการรักษาคุณภาพของผักและผลไม้ในช่วงกระบวนการแช่แข็ง
    • อุณหภูมิ: ตั้งอยู่ในช่วงประมาณ 2 ถึง -10 องศาเซลเซียส เพื่อให้กระบวนการแช่แข็งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  2. ห้องแช่แข็ง (Freezer Room):
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเก็บรักษาสินค้าในระยะยาว เช่น การเก็บปลาหรือเนื้อสัตว์ที่ต้องการการรักษาคุณภาพในระยะยาว
    • อุณหภูมิ: ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของสินค้า เช่น -25 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยให้สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานหลายเดือนหรือแม้กระทั่งปี
  3. ห้องเย็นเก็บรักษาสินค้า (Cold Storage Room):
    • การใช้งาน: ใช้สำหรับเก็บสินค้าที่ผ่านการแช่แข็งแล้ว เช่น ไอศกรีมหรือเนื้อสัตว์ที่ต้องการการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่คงที่
    • อุณหภูมิ: ประมาณ -25 องศาเซลเซียส เพื่อให้สินค้าคงสภาพดีและรักษาคุณภาพได้ตามที่ต้องการ
  4. ห้องแช่แข็งลมเย็นจัด (Air Blast Freezer Room):
    • การใช้งาน: ใช้สำหรับการแช่แข็งวัตถุดิบแบบรวดเร็ว เช่น อาหารทะเลและผักผลไม้ ซึ่งต้องการการแช่แข็งในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อป้องกันความเสียหายของเซลล์
    • อุณหภูมิ: ประมาณ -35 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยให้การแช่แข็งเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  5. ห้องเย็นสำหรับพักสินค้า (Anti-Room):
    • การใช้งาน: ใช้สำหรับการพักสินค้าก่อนการขนส่งหรือการจำหน่าย โดยลดอุณหภูมิของอากาศภายนอกที่มีอุณหภูมิสูงให้เข้าสู่ห้องแช่แข็งที่มีอุณหภูมิสูงกว่าบ้าง
    • อุณหภูมิ: ประมาณ -5 ถึง 10 องศาเซลเซียส เพื่อเตรียมสินค้าก่อนการขนส่งหรือการจัดจำหน่าย

ทำความรู้จักกับระบบการทำงานของห้องเย็น

บริษัทสร้างห้องเย็นจะต้องให้ความสำคัญกับระบบทำความเย็นของห้องเย็นเป็นอย่างมาก เพื่อให้สามารถใช้งานห้องเย็นในการจัดเก็บและคงความสดของวัตถุดิบต่าง ๆ เอาไว้ได้เป็นเวลานาน ให้สินค้ามีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ จึงต้องทำการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการทำงานห้องเย็นอยู่เสมอ ซึ่งห้องเย็นจะมีหลักการทำงานหลัก ๆ 2 ระบบดังนี้ 

  1. ระบบการทำความเย็นโดยใช้สารทำความเย็นระเหย
    เรียกว่า Expendable Refrigerant Cooling System เป็นระบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มบริษัทรับสร้างห้องเย็น ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีกับรถบรรทุกที่ใช้ขนส่งอาหารที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอยู่เสมอ ซึ่งมีหลักการเพียงแค่ปล่อยให้สารทำความเย็นเหลวระเหยเป็นไออยู่ภายในบริเวณที่ต้องการทำความเย็น โดยบริเวณเหล่านี้จำเป็นต้องมีฉนวนกันความร้อนห่อหุ้มอยู่โดยรอบ ซึ่งขณะที่สารเปลี่ยนสถานะจะต้องใช้ความร้อนแฝงเพื่อทำให้อุณหภูมิลดลง จึงต้องใช้ตัวกลางคือ “ไนโตรเจนเหลว” ที่อยู่ภายในถัง ปล่อยให้ไหลผ่านไปยังวาล์วควบคุมไปยังท่อและหัวฉีด สามารถฉีดไนโตรเจนเหลวให้เป็นฝอยบริเวณที่ต้องการทำความเย็นได้ทันที
  2. ระบบการทำความเย็นโดยการอัดไอ อาศัยหลักการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้
    • คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ทำหน้าที่ดูดน้ำยาในสภาพที่เป็นไอจากเครื่องระเหย อัดให้มีความดันสูงขึ้น เพื่อส่งไปควบแน่นที่คอนเดนเซอร์
    • คอนเดนเซอร์ (Condenser) ทำหน้าที่ระบายความร้อนออกจากน้ำยาเพื่อควบแน่นเป็นของเหลว
    • รีซีฟเวอร์ (Receiver) ทำหน้าที่สะสมของเหลวที่มาจากคอนเดนเซอร์ และจ่ายให้กับเครื่องระเหย
    • ลิ้นลดความดัน (Expansion Valve) ทำหน้าที่ลดความดันของน้ำยาที่ออกจากคอนเดนเซอร์เพื่อจ่ายให้เครื่องระเหย
    • เครื่องระเหย (Evaporator) ทำหน้าที่ดูดความร้อนออกจากบริเวณรอบ ๆ เพื่อให้น้ำยาเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอ ทำให้บริเวณรอบข้างมีความเย็นขึ้น

   

ห้องเย็นที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง?

การเลือกใช้ห้องเย็นเพื่อจัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกวันนี้ ด้วยอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เริ่มมีการนำห้องเย็นมาใช้อำนวยความสะดวกในการควบคุมอุณหภูมิของสินค้ากันอย่างแพร่หลาย โดยห้องเย็นที่ได้รับการออกแบบให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานทางอุตสาหกรรมจะส่งผลต่อการรักษาคุณภาพและความสะอาดของสินค้าที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเอาไว้ ซึ่งห้องเย็นที่ดีจะมีคุณสมบัติดังนี้

  • สามารถควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสินค้าที่ทำการจัดเก็บ
    ห้องเย็นที่ดีจะต้องสามารถรักษาอุณหภูมิภายในห้องได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอทั่วทุกบริเวณ อีกทั้งยังสามารถควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสินค้าประเภทต่าง ๆ ได้ เช่น อาหารแช่แข็ง, ไวน์ หรือผักผลไม้สด เป็นต้น
  • สามารถกันความชื้นภายในห้องได้เป็นอย่างดี
    ห้องเย็นที่ดีจะต้องสามารถควบคุมระดับความชื้นให้มีความเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ผักผลไม้เน่าเร็ว และมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานมากขึ้นได้
  • มีระบบห้องเย็นอัจฉริยะ หรือ Smart Cold Room
    ภายในห้องเย็นควรมีระบบช่วยแจ้งเตือนความผิดปกติและสามารถส่งรายงานการติดตามในส่วนต่าง ๆ เช่น ความชื้น อุณหภูมิ ได้ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของห้องเย็นได้
  • รองรับมาตรฐานความปลอดภัยตามข้อกำหนด
    ห้องเย็นจะต้องได้รับมาตรฐานตามข้อกำหนดทางด้านระเบียบของอุตสาหกรรม เช่น GMP, HACCP, ISO และ Halal เพื่อความปลอดภัยของคุณภาพอาหาร สินค้า หรือวัตถุดิบ ในระหว่างการดำเนินการ

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนการเลือกซื้อห้องเย็น

การเลือกห้องเย็นไว้ใช้ในการจัดเก็บสินค้า อาหาร และวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ต้องการรักษาอุณหภูมิภายในห้องนั้นจำเป็นที่จะต้องขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรับสร้างห้องเย็น หรือ รับทำห้องเย็น เพื่อให้ได้ห้องเย็นที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด โดยควรคำนึงถึงด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • เลือกห้องเย็นที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง
    ควรพิจารณาพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งห้องเย็นว่ามีพื้นที่เพียงพอหรือไม่ โดยควรเป็นพื้นที่โล่งกว้าง สำหรับขนส่งและลำเลียงสินค้าได้อย่างสะดวก ไม่คับแคบหรือแออัดจนเกินไป ซึ่งสามารถขอคำแนะนำจากบริษัทรับสร้างห้องเย็นหรือรับทำห้องเย็นเพิ่มเติมได้
  • ประเภทของห้องเย็นต้องมีความเหมาะสมกับสินค้าที่ต้องการจัดเก็บ
    เนื่องจากสินค้าแต่ละประเภทนั้นมีอุณหภูมิที่เหมาะกับการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกประเภทของห้องเย็นให้เหมาะสมกับวัตถุดิบจะช่วยให้เราสามารถจัดเก็บสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากต้องการจัดเก็บสินค้าในปริมาณมาก อาจต้องเลือกพื้นที่ภายในห้องเย็นที่มีขนาดใหญ่
  • ภายในห้องเย็นต้องมีการระบายอากาศที่เหมาะสม
    การจัดเก็บวัตถุดิบหรือสินค้าไว้ในห้องเย็นเป็นเวลานาน อาจมีการเคลื่อนย้ายสินค้าเข้าออกบ่อยครั้ง ทำให้มีสิ่งแปลกปลอมที่มาจากอากาศเข้ามาภายในห้องอยู่เสมอ ซึ่งห้องเย็นที่ดีจะสามารถระบายอากาศให้เหมาะสมและช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าได้

เลือกใช้บริการรับทำห้องเย็นกับ BCF PANEL ดียังไง?

ในโลกของอุตสาหกรรมอาหารและการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ BCF PANEL โดดเด่นขึ้นมาเป็นผู้นำในการให้บริการด้านห้องเย็นคุณภาพสูง ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 30 ปี เราไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตและติดตั้งห้องเย็นเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจที่ต้องการระบบจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน

ความเชี่ยวชาญของ BCF PANEL ครอบคลุมตั้งแต่ จำหน่าย ฉนวนกันความร้อน PU FOAM PS โฟม ไปจนถึงห้องคลีนรูมและห้องปลอดเชื้อ ไม่ว่าคุณจะต้องการทำห้องเย็นขนาดเล็กสำหรับร้านอาหาร หรือระบบห้องเย็นขนาดใหญ่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ทีมงานของ BCF PANEL พร้อมที่จะออกแบบและสร้างสรรค์โซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณ

หัวใจสำคัญของการบริการของ BCF PANEL คือแนวคิด “One Stop Service” ที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ ไปจนถึงการติดตั้งและบริการหลังการขาย ด้วยการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน คุณจึงมั่นใจได้ว่าห้องเย็นที่ได้รับจะมีประสิทธิภาพสูงสุดและตอบสนองความต้องการของธุรกิจคุณได้อย่างแท้จริง

มาตรฐานระดับสากลเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ BCF PANEL โดยห้องเย็นทุกห้องได้รับการออกแบบและติดตั้งให้สอดคล้องกับมาตรฐาน GMP และ HACCP ซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก นี่คือเหตุผลที่ทำให้ BCF PANEL เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

นอกจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว BCF PANEL ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดของการบริการ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาที่เป็นมิตรและเข้าใจง่าย ไปจนถึงบริการจัดส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยแนวคิด “ลูกค้าคือครอบครัว” ทีมงานของ BCF PANEL พร้อมที่จะดูแลและให้บริการคุณอย่างดีที่สุด เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเดียวกัน

เมื่อคุณเลือกใช้บริการกับ BCF PANEL คุณไม่ได้เพียงแค่ซื้อห้องเย็น แต่คุณกำลังลงทุนในระบบการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน และมีทีมงานมืออาชีพคอยสนับสนุน นี่คือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับธุรกิจที่ต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในโลกของอุตสาหกรรมอาหารและการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ

คุณสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่และทีมฝ่ายขายของเราได้ในช่องทางที่หลากหลาย

ติดต่อที่เบอร์ 02-569-2328

info@bcfpanel.com

เพจ Facebook: BCF PANEL

Line ID: @bcfpanel

แบบฟอร์มการติดต่อ

กรอกข้อมูลของท่าน (เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ)