ฉนวนกันความร้อนมีอะไรบ้าง? แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร?

ฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป มีอะไรบ้าง

แผ่นฉนวนกันความร้อนมีกี่ประเภท อะไรบ้าง? 

แผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป หรือ Sandwich Panel ประกอบไปด้วยแผ่นเหล็กเมทัลชีทที่มี 2 ด้าน โดยมีโฟมฉนวนกันความร้อนอยู่กลางแผ่นเหล็กเมทัลชีททั้ง 2 ด้าน และนำมาประกอบติดกันด้วยการยึดติด จึงทำให้ Sandwich Panel มีคุณสมบัติกันความร้อน กักเก็บความเย็น และกันเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี รองรับมาตรฐานสากล GMP และ HACCP ทำให้มีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้กับอุตสาหกรรมด้านอาหารและยารักษาโรค เราจึงสามารถพบเห็น Sandwich Panel ได้จากห้องเย็น ห้องเก็บสินค้า หรือ ห้องคลีนรูม เป็นต้น ซึ่งแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูปมี

โดยแผ่นฉนวนกันความร้อนทั้งหมด 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

  • แผ่นฉนวนกันความร้อนประเภทโฟม PS –  Polystyrene Foam
  • แผ่นฉนวนกันความร้อนประเภทโฟม PU –  Polyurethane Foam
  • แผ่นฉนวนกันความร้อนประเภทโฟม PIR –  Polyisocyanurate Foam

 

แผ่นฉนวนสำเร็จรูป PS โฟม (Polystyrene Foam)

แผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป PS โฟม หรือ Sandwich Panel ประเภท Polystyrene Foam เรียกว่า โพลีสไตลีน เป็นโฟมที่มีสีขาวชนิดไม่ลามไฟ นำไปติดประกบกับแผ่นเหล็กเมทัลชีท เพื่อนำมาใช้ทำเป็นแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป หรือ Sandwich Panel  ต่อโดย โดยแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป PS โฟม มีคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้

  • มีค่าความเป็นฉนวนต่ำ จึงสามารถกันความร้อนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี

  • เป็นโฟมชนิดไม่ลามไฟ เมื่อเกิดไฟไหม้จะช่วยชะลอการกระจายของไฟได้

  • มีความแข็งแรง อายุการใช้งานยาวนาน 

  • น้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้าย ประกอบ และติดตั้ง 

  • ปลอดภัยไร้สาร CFCs เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

  • สามารถกักเก็บอุณหภูมิความเย็นได งช่วยประหยัดพลังงาน และยังป้องกันเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถรองรับมาตรฐานสากล GMP และ HACCP

  • เหมาะสำหรับ อุตสาหหกรรม โรงงานผลิตอาหาร โรงงานที่เก็บอาหาร ห้องเย็น ห้องคลีนรูม ห้องผ่าตัด และอื่นๆ อีกมากมาย

  • สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ เช่น ค่าไฟ เมื่อใช้งานห้องเย็น หรือห้องอุณหภูมิบวก ช่วยทำให้อุณหภูมินั้นคงที่ได้เร็วยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานของแผ่นได้เป็นอย่างดี

ฉนวนประเภทโฟม PU (Polyurethane Foam)

 แผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป Sandwich Panel ประเภทโฟม PU Polyurethane Foam เรียกว่า   โพลียูรีเทน เป็นโฟมเหลืองที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของไดโอโซไซยาเนต (Di-isocyanates) และโพลิออล (Polyols) ที่มาจากน้ำมันดิบ แผ่นฉนวนกันความร้อน  PU โฟม มีคุณสมบัติดังนี้

  • ประกอบไปด้วยอนูโฟมละเอียดถึง 95% มีความคงทน

  • มีคุณสมบัติช่วยกันความร้อนได้ดี เป็นชนิดไม่ลามไฟ ช่วยชะลอการลามไฟในวงกว้างได้ดีกว่า PS โฟม

  • มีความแข็งแรง ทนทาน จึงสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

  • มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้าย ประกอบ ติดตั้ง ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

  • สามารถช่วยป้องกันความร้อน ช่วยกักเก็บอุณหภูมิความเย็น ป้องกันเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ได้สามารถรองรับมาตรฐานสากล GMP และ HACCP

  • ปลอดภัยไร้สาร CFCs เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

ฉนวนประเภทโฟม PIR (Polyisocyanurate Foam)

แผ่นฉนวนกันความร้อนสำหรับรูป หรือ  Sandwich Panel ประเภทโฟม PIR เรียกว่า โพลีไอโซไซยานูเรต เป็นโฟมเหลืองที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับโฟม PU แต่จะต่างกันตรงที่โฟม PIR จะสามารถกันไฟลามได้ดีกว่าและก่อให้เกิดควันที่น้อยกว่า PU โฟม จึงนิยมนำมาใช้ติดตั้งบริเวณต่าง ๆ ภายในโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริเวณผนัง เช่น ห้องเย็นคลีนรูม ห้องไลน์ผลิต และห้องคลีนรูม และมักนำมาทำเป็นแผ่นสำเร็จรูป Sandwich Panel ที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ผนังทนไฟ ซึ่งฉนวนโฟม PIR จะมีคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้

  • เป็นฉนวนความร้อนที่สามารถกันความร้อนได้ดีมาก ตั้งแต่ -60 องศา จนถึง 100 องศา

  • มีคุณสมบัติดูดซับน้ำและความชื้นได้ต่ำ ช่วยลดความเสียหายของโครงสร้างภายใน จึงสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

  • เมื่อเกิดเพลิงไหม้จะก่อให้ควันในปริมาณที่น้อย 

  • มีน้ำหนักที่เบา จึงสามารถประกอบ ติดตั้ง เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก

  • สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในให้เสถียรและคงที่

  • เหมาะสำหรับการนำไปติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรมและห้องเย็นทุกรูปแบบ

  • สามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

 

เลือกฉนวนกันความร้อนอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด?

หลังจากที่ได้ทราบแล้วว่าแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป และวัสดุกันความร้อนมีอะไรบ้าง เราควรเลือกใช้แผ่นฉนวนกันความร้อนรูปแบบใดให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยก่อนที่จะทำการเลือกซื้อแผ่นฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิดจะต้องคำนึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้

 

  • พิจารณาจากค่าต้านทานความร้อนของฉนวนกันความร้อนแต่ละแบบ

ค่าต้านทานความร้อนถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้เราสามารถใช้ป้องกันความร้อนจากภายนอก ได้เป็นอย่างดี โดยควรพิจารณาจากค่า R หรือค่าความต้านทานความร้อนของฉนวน ซึ่งจะมีตัวเลขกำกับเอาไว้เสมอและมีหน่วยวัดเป็นตารางเมตร/องศาเคลวินต่อวัตต์ ยิ่งค่า R สูงก็จะยิ่งดี และหลีกเลี่ยงวัสดุที่มีค่า K หรือ ค่าการนำความร้อนสูง ๆ 

  • ตำแหน่งที่ต้องการนำแผ่นฉนวนกันความร้อนไปติดตั้ง

ตำแหน่งพื้นที่ ที่เราต้องการติดตั้งแผ่นฉนวนกันความร้อนนั้นก็มีความเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้แผ่นฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิดด้วย เพราะฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป และความเหมาะกับการติดตั้งในบริเวณที่ต่างกัน เช่น แผ่นฉนวนกันความร้อนแบบโฟม PIR จะเหมาะกับการติดตั้งภายในโรงงานอุตสาหกรรมหรือห้องคลีนรูมที่ต้องการเก็บรักอุณหภูมิความเย็นเอาไว้ได้มากกว่า เป็นต้น

  • ความคุ้มค่าต่อราคากับคุณภาพของแผ่นฉนวนกันความร้อน

ส่วนใหญ่แล้วแผ่นฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิดมักจำหน่ายและคิดราคาเป็นต่อตารางเมตร หากเราทำการเปรียบเทียบและพิจารณาราคาของฉนวนกันความร้อนที่เราต้องการ กับ ราคาของฉนวนกันความร้อนประเภทอื่น ๆ ให้ดีว่าอันไหนมีความคุ้มค่าต่อราคาและการใช้งานมากกว่ากัน ก็จะช่วยให้เราได้เราสินค้าที่ตรงต่อความต้องการและคุ้มค่าที่สุด  

 

ใช้บริการผลิตและติดตั้งแผ่นฉนวนความร้อนสำเร็จรูปกับ BCF Panel ดีอย่างไร?

จากบทความข้างต้นอาจสามารถตอบคำถามที่ว่า แผ่นฉนวนกันความร้อนมีอะไรบ้าง, วัสดุกันความร้อนมีอะไรบ้าง, วัสดุฉนวนกันความร้อนมีอะไรบ้าง และฉนวนกันความร้อนได้อย่างครบถ้วน จะสังเกตได้ว่าฉนวนกันความร้อนนั้นมาพร้อมกับประโยชน์มากมายที่สามารถช่วยกันความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ภายในอาคารหรือห้องของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถช่วยควบคุมอุณหภูมิสำหรับจัดเก็บสินค้าต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ห้องคลีนรูมต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นการเลือกใช้บริการผลิตและจำหน่ายฉนวนกันความร้อนจากบริษัทที่ได้มาตรฐานและมีความเชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ 

BCF Panel เราคือผู้เชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบและผลิตแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป สามารถนำไปใช้งานสำหรับแผ่นฉนวนกันความร้อนผนัง ฝ้า ทุกประเภท สำหรับทุกอุตสาหกรรมแบบ One Stop Service ครบวงจร คุณภาพดี รองรับมาตรฐานสากล GMP, HACCP และบริการหลังการขายที่เราพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 35 ปี ให้คุณได้มั่นใจในคุณภาพสินค้าและบริการ เพราะ BCF Panel เชื่อว่า ”ผู้บริโภคคือครอบครัวของเรา”